ชิราคาวาโกะ เมืองธรรมชาติที่ยังคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาชาวบ้านจากรุ่นสู่รุ่น ตัวเมืองตั้งอยู่ทางตะวันตก อยู่ในเขตจังหวัดกิฟุ ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของภูเขาฮากุ ห่างจากทาคายาม่าประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่น โดยได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESO เมื่อปี 1995

หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามแม่น้ำโชกาวะ ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงนิทานที่เคยฟังสมัยตอนเด็กๆค่ะ ที่จะมีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา และดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้านนินจาเลยก็ว่าได้

ไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่ชิราคาวาโกะก็คือ การได้มาเดินชมบ้านแบบ กัสโชสึคุริ ซึ่งเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปีนั่นเองค่ะ มีลักษณะพิเศษคือ เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช” ซึ่งแปลว่า “พนมมือ” ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากันนั่นเอง เหตุผลของการสร้างบ้านในลักษณะนี้ เนื่องจากบริเวณเมืองชิราคาวาโกะนี้ เป็นเขตที่มีหิมะตกหนัก ซึ่งจะตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคม บางครั้งอาจมีความหนาถึงประมาณ 5 ฟุต หรือ 180 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งหลังคาที่มีความลาดเอียงจะช่วยให้โครงสร้างของบ้านไม่ต้องรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมา

มาเที่ยวชิราคาวาโกะช่วงไหนดี

• ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะได้เห็นความสวยงามของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระสีชมพู

• ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน-สิงหาคม พอเข้าสู่ฤดูร้อนของชิราคาวาโกะ ทั่วทั้งหมู่บ้านก็จะเต็มไปด้วยนาข้าว ต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศดีๆ และยังมีช่วงการฉีดน้ำขึ้นหลังคาบ้านให้ได้เห็นอีกด้วยค่ะ

• ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน-พฤศจิกายน ต้นไม้ ใบไม้ต่างๆทั้งหมู่บ้านจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล ถือได้ว่าหมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นเป็นอีกแห่งสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยงามมากๆ อีกแห่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

• ฤดูหนาว เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ช่วงฤดูหนาวนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหลายคนเฝ้ารอ เพราะหิมะสีขาวโพลนจะปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ให้บรรยากาศญี่ปุ่นในสมัยโบราณได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีงานเทศกาลฤดูหนาว ที่ทั่วทั้งหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน ชื่อว่า งานแสดงไฟ Shirakawago Light Up ค่ะ

นอกจากชิราคาวาโกะจะมีบ้านเก่าแก่สวยๆ ดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เราได้เดินชม เที่ยวเล่น ถ่ายรูปสวยๆ กันแล้ว ยังมีบ้านหลายๆหลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ศาลเจ้า และที่พักโฮมสเตย์อีกด้วยค่ะ และที่จุดรับนักท่องเที่ยวจะมีแผนที่ของหมู่บ้านให้กับเรา เราสามารถเดินเที่ยวตามแผนที่นั้นได้เลยจ้า