ผู้หญิงที่ชื่นชอบน้ำหอม โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่มีน้ำหอมอย่างไม่สิ้นสุด จะต้องทำการบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ


สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำหอมที่คุณตั้งใจจะซื้อ แล้วชั้นของกลิ่นน้ำหอมคืออะไร? และเราควรใส่ใจอะไรเมื่อเลือกน้ำหอม?


เมื่อพูดถึงชั้นของกลิ่นน้ำหอมซึ่ง ผู้หญิงหลายคนทราบดีว่าน้ำหอมเป็นอาวุธอันทรงพลังในคลังแสงของผู้หญิง พวกเธอมักจะตามเทรนด์ และไปเลือกน้ำหอมยอดนิยมแต่กลับพบว่ามันไม่เหมาะกับตัวเอง


โทนของกลิ่นน้ำหอมแบ่งออกเป็น 4 โทนหลักคือ ฟรุ๊ตตี้, โอเรียนทัล, หนัง และกลิ่นไม้ ความสำคัญของกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้คือการให้กลิ่นโดยทั่วไป แม้กระทั่งก่อนที่คุณจะได้สัมผัสน้ำหอมโดยตรง โทนผลไม้มักชวนให้นึกถึงส้ม


โทนโอเรียนทัล ให้กลิ่นหอมของธูปในวัดตะวันออก โทนหนังให้กลิ่นหอมของเข็มขัดหนัง และโซฟา สุดท้ายนี้โทนไม้ให้ความรู้สึกวินเทจ และผุพังเล็กน้อย


ในแง่ขององค์ประกอบของน้ำหอม กลิ่นน้ำหอมแต่ละระดับจะค่อยๆ เผยออกมาเมื่อเวลาผ่านไป และท็อปโน๊ต (Top Note) คือกลิ่นคุณสัมผัสได้ภายในสิบนาทีหลังจากฉีดน้ำหอม


จะแสดงถึงกลิ่นหอมโดยรวมของน้ำหอม โน้ตกลาง (Middle Note หรือ Heart Note) จะปรากฏขึ้นหลังจากที่ท็อปโน๊ตหายไป โดยปกติจะอยู่ระหว่างสามสิบนาทีถึงสองชั่วโมงหลังจากนั้น ในระหว่างนี้แอลกอฮอล์จะระเหยออกไปเผยให้เห็นกลิ่นหอมที่แท้จริงของน้ำหอม เมื่อซื้อน้ำหอม สิ่งสำคัญคือต้องรอให้มิดเดิลโน้ตปรากฏก่อนจึงจะรู้ว่าเป็นกลิ่นที่ถูกใจคุณหรือไม่


ตอนนี้มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกน้ำหอมกันดีกว่า เช่นเดียวกับสไตล์การแต่งตัวของเรา การเลือกน้ำหอมก็ควรสอดคล้องกับบุคลิกภาพของเรา หากเรามีชีวิตชีวา และร่าเริงโดยธรรมชาติ เราก็สามารถเลือกกลิ่นหอมที่มีชีวิตชีวา และหอมหวานได้มากขึ้น


ในทางกลับกัน ถ้าเราเป็นคนเก็บตัว และชอบความหรูหรา เราควรเลือกน้ำหอมให้ความรู้สึกสงบ และผ่อนคลาย ตัวเลือกนี้ควรขึ้นอยู่กับว่าจะช่วยเสริมการแต่งกายประจำวันโดยรวมของเราอย่างไร นอกจากนี้ เราต้องคำนึงถึงโอกาสที่เราแต่งตัวด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหอมจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ของเราโดยไม่ดูโดดเด่น หรือผิดเพี้ยนไป


สำหรับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องน้ำหอม จำเป็นต้องใส่ใจกับกลิ่นที่ติดของน้ำหอม น้ำหอมส่วนใหญ่มีกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ท็อปโน๊ต (Top Note), โน้ตกลาง (Middle Note หรือ Heart Note) และกลิ่นที่ติดอยู่ชั้นสุดท้าย


หากมีกลิ่นที่ติดอยู่ชั้นสุดท้ายเล็กน้อย ก็เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในทางกลับกัน หากกลิ่นที่ติดอยู่ชั้นสุดท้ายมากก็จะเหมาะกับโอกาสสำคัญมากกว่า สิ่งสำคัญคือต้องไม่ควรใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นที่ติดอยู่ชั้นสุดท้ายมากในชีวิตประจำวัน หรือบ่อยครั้ง เนื่องจากอาจสร้างความไม่ประทับใจให้ได้ สุดท้ายนี้ ควรคำนึงถึงอายุของตนในการเลือกน้ำหอมด้วย น้ำหอมมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความรู้สึกที่แตกต่าง หญิงสาวในวัยยี่สิบสามารถเลือกกลิ่นหอมสดชื่น หรูหรา หรือแม้แต่กลิ่นที่มีชีวิตชีวาที่กระตุ้นความรู้สึกอันหอมหวาน


อย่างไรก็ตาม ในวัยผู้ใหญ่ เราควรพิจารณาน้ำหอมที่มีกลิ่นอายความหรูหรา หรือเซ็กซี่ น้ำหอมแต่ละชนิดมีกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป และการใช้น้ำหอมที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเรา


ก่อนที่จะซื้อน้ำหอม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจกลิ่นน้ำหอม และพิจารณาความชอบส่วนตัว โอกาส กลิ่นที่ติดอยู่ชั้นสุดท้าย และความเหมาะสมตามวัย การทำเช่นนี้ทำให้เราสามารถเลือกน้ำหอมที่ไม่เพียงแต่เติมเต็มสไตล์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์โดยรวมอีกด้วย


ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณไปซื้อน้ำหอม อย่าลืมทำการบ้าน และตัดสินใจอย่างมีข้อมูล