สภาพภูมิศาสตร์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือที่เราเรียนติดปากกันว่า "ภาคอีสาน" มีผลต่ออาหารการกินของคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก


เนื่องจากในพื้นที่บางแห่งค่อนข้างแห้งแล้ง และวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่นำมาใช้เพื่อประกอบอาหารซึ่งหาได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ ปลา แมลงบางชนิด หรือพืชผักต่าง ๆ ที่ปลูกกันตามรั้วบ้าน อีกทั้งยังมีวิธีการถนอมอาหารด้วยการหมักดอง พร้อมผสานด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่นมาใช้เพื่อรักษาอาหารไว้เพื่อให้กินได้นาน ๆ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีพของคนอีสาน


รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารอีสานคือ เผ็ด เค็ม และเปรี้ยว และเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างแห้งแล้ง สมุนไพรหรือเครื่องเทศที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ประกอบด้วย ข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด ขิง ผักชีลาว เป็นต้น และถ้าจะให้พูดถึงอาหารอีสานแล้ว หลายคนคงนึกถึงอาหารรสจัดจ้าน แซ่บซี๊ดไม่เหมือนใคร และคุณต้องไม่พลาดอาหารอีสานดังต่อไปนี้


1. ส้มตำ


ส้มตำเป็นเมนูที่ทุกคนทั่วโลกรู้จัก โดยมีเส้นมะละกอดิบที่สดกรอบเป็นหัวใจหลักของเมนูนี้ ที่นำมาตำกับมะเขือเทศ พริก ถั่วฝักยาว และกระเทียม ปรุงด้วยตำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว ใส่กุ้งแห้ง และเพิ่มความกรอบด้วยถั่วลิสง โดยเมนูส้มตำมีหลายประเภทเช่น ตำซั่ว (ใส่เส้นขนมจีน) ตำข้าวโพด ตำแตง ตำผลไม้ และอื่น ๆ ตามความชอบของแต่ละคน นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือขนมจีน


2. ลาบ


"ลาบ" เป็นอาหารอีสานที่ขึ้นชื่ออีกเมนูหนึ่ง ทำจากเนื้อสัตว์บด เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ หรือเนื้อเป็ด แล้วคลุกกับข้าวคั่ว หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ใบสะระแหน่ ปรุงรสด้วยพริก น้ำมะนาว และน้ำปลาหรือปลาร้าเพื่อเพิ่มความนัว นอกจากนี้ ยังมีเมนูลาบเลือด ที่ใช้เลือดวัวหรือหมูสดมาผสม ในปัจจุบันยังการรังสรรค์และคิดค้นมีเมนูลาบทอด ที่นำลาบมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปทอดให้กรอบ กลายเป็นลาบทอดแสนอร่อยที่สามารถทานเป็นอาหารว่างได้อีกด้วย


เมื่อพูดถึงส้มตำ และลาบแล้ว ยังมีอีกเมนูหนึ่งที่คงจะขาดไปไม่ได้ เป็นเมนูประเภทย่าง ที่ใครหลายๆ คน ชื่นชอบ และมักทานคู่กันกับส้มตำ นั่นก็คือ "ไก่ย่าง" และ "คอหมูย่าง"


3. ไก่ย่าง


เมนูไก่ย่างนั้นจะมีสูตรในการหมักไก่แตกต่างกันออกไปตามความชอบ โดยไก่ย่างที่มักด้วยขมิ้น มักจะนำมาเสิร์ฟคู่กับส้มตำ โดยขมิ้นนั้นให้ความหอมและให้สีเหลืองที่ดูน่ารับประทาน แถมยังได้ประโยชน์จากขมิ้นที่เป็นสมุนไพรท้องถิ่นอีกด้วย และเคล็ดลับการย่างไก่ให้หอมอร่อย คือ เตาถ่าน ไก่ที่ย่างด้วยเตาถ่านไฟร้อนปานกลางนั้น จะให้กลิ่นหอมละมุนของถ่าน แต่หากใครไม่มีเวลาว่างพอที่จะจัดเตรียมถ่าน ก็สามารถใช้เตาไฟฟ้าได้เช่นกัน


4. คอหมูย่าง


เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมต้องเป็น "คอหมูย่าง" ?


นั่นก็เพราะว่าเนื้อหมูส่วนคอนั้นมักจะมีไขมันแทรกอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาหมักแล้วย่าง จึงทำให้เนื้อหมูส่วนนี้ไม่เหนียว และนุ่มละมุนลิ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวและส้มตำ


หากเมนูที่กล่าวข้างต้นเป็นพระเอก แล้วนางเอกของเราจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก "ข้าวเหนียว"


5. ข้าวเหนียว


ข้าวเหนียวเป็นอาหารหลักของคนอีสาน ใช้หวดในการนึ่งข้าวเหนียว ซึ่ง หวด คือภาชนะที่เป็นรูปกรวย ทำด้วยไม้ไผ่ และจะใช้คู่กับหม้อทรงกระบอกในคอยใส่น้ำไว้นึ่งข้าว


รู้หรือไม่?


ข้าวเหนียวมี 2 สี คือ สีขาวและสีดำ โดยข้าวเหนียวดำจะมีสารอาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาว สารอาหารที่เป็นประโยชน์นี้ เรียกว่า “โอพีซี"(OPC) ซึ่งมีสรรพคุณที่ช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย และความเสื่อมถอยของร่างกาย เป็นสารอาหารชนิดเดียวกับที่สารสกัดได้จากองุ่นดำ องุ่นแดง และเปลือกสน


เคล็ดลับ วิธีนึ่งข้าวเหนียวให้นุ่มนานข้ามวัน


1. นำไปแช่น้ำประมาณ 3-4 ชั่วโมง


2. ตั้งซึ้ง รอให้น้ำเดือด ใส่ข้าวเหนียวลงไป


3. กระจายข้าวเหนียวอย่าให้ทับกันมาก และนึ่งเป็นเวลาประมาณ 10 นาที


4. เตรียมตระแกรงสำหรับสะเด็ดน้ำ จากนั้นตักข้าวเหนียวมาใส่ และนำมาล้างด้วยน้ำเปล่าหนึ่งรอบ แล้วกระจายให้ทั่ว


5. นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำออก จากนั้นให้นึ่งต่อจนข้าวเหนียวสุก โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที


6. นำออกมาให้โดนอากาศจนข้าวเหนียวแห้ง เป็นอันเสร็จ


ชาว Lykkers หลายคนคงจะต้องชื่นชอบอาหารอีสาน ที่ถือเป็นอาหารที่กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเบื่อ เป็นเมนูที่ทำเองได้ง่ายมาก และสำหรับคนอีสานแล้ว ส้มตำถือเป็นอาหารหลักที่กินได้ตลอดเวลา หรือบางคนแทบจะกินทุกมื้อหรือทุกวัน อาหารอีสานนั้นมีทั้งเสน่ห์และรสชาติที่ดี หากใครที่กำลังหิว และนึกอะไรไม่ว่าจะกินอะไรดี ลองสั่งเมนูอาหารอีสานรสเด็ดนี้ดู เผื่อจะติดใจอาหารอีสานจนต้องร้องว่า "แซ่บหลายเด้อ"