อย่างที่รู้กันดีว่าโลกของเรานั้น ประกอบไปด้วยทะเลมากกว่า 70% บรรยากาศของทะเลจะต่างกันไปตามแต่ละที่ บางคนชอบไปที่คนเยอะๆ จะได้มีเพื่อนใหม่ๆ ได้เล่นน้ำ ได้เล่นกิจกรรมกลุ่ม บางคนชอบความเงียบสงบของชายหาด นั่งเงียบๆมองทะเล ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนทะเลก็เป็นสื่อกลางให้เราผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และการไปเที่ยวทะเลเหมือนการเดินทางไปพักผ่อนและคิดเรื่องทบทวนที่ผ่านมา ทั้งเรื่องราวที่ดีและเรื่องราวที่ไม่ดี ทำให้เรารู้สึกสบายใจเหมือนเพิ่มพลังให้จิตใจเราสงบ มีสติ แล้วตัวเราก็จะกลับมาอยู่กับโลกของความเป็นจริงอีกครั้ง


กลิ่นอายของทะเลยามค่ำคืน กลายเป็นอีกหนึ่งความงดงามที่เต็มไปด้วยความน่าค้นหา เนื้อทรายเม็ดละเอียดที่อยู่ใกล้กับผืนน้ำรอคลื่นกระทบเข้าหาฝั่งเป็นระลอก บรรยากาศแสนอบอุ่นและเงียบสงบของทะเลยามค่ำคืน เสียงเกลียวคลื่นและลมทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง ส่งเสียงกระแทกกับสายลมไปพร้อมกับพัดพาเม็ดทรายเข้ามายังชายหาด เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ท้องฟ้าอันมืดมิดแต่กลับเห็นความสว่างของธรรมชาติจากดวงดาวบนท้องฟ้า สายลมที่พัดผ่านมาทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย เสมือนกำลังถูกธรรมชาติขับกล่อมด้วยความรัก การได้มานั่งพักผ่อนอยู่ริมชายหาด กลิ่นทะเลยามค่ำคืนที่โชยมาตามสายลม กลิ่นแห่งความสุขได้อบอวลไปทั่วพื้นที่ ชวนให้เราได้เข้าสู่ช่วงนิทราอย่างแท้จริง


ความเหนื่อยล้า ความตึงเครียดและวิตกกังวลต่างๆได้ถูกชโลมล้างด้วยกลิ่นอายแห่งความงามของท้องทะเล ทำให้เราดื่มด่ำกับมันได้ไม่รู้จบ การได้ดูดวงดาวบนท้องฟ้า พร้อมกับชมทะเลสุดลึกลับอันทรงเสน่ห์ เป็นการพักผ่อนที่ทำให้เราได้ใช้เวลาในการไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาได้อย่างถ่องแท้ ความงดงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น กลิ่นแห่งท้องทะเลยามค่ำคืน ที่สุดแสนจะโรแมนละดูลึกลับน่าค้นหา ช่วงเวลาสุดล้ำค่าที่จะทำให้เราได้ดื่มด่ำความสดชื่นให้เต็มปอด ความสดใสและความเย็นสบายได้ถูกถ่ายทอดผ่านมายังสายลมที่พัดเอื้อยอิ่ง จนอยากจะนอนหลับยาวๆไปตลอดทั้งคืน ความสุขที่แสนจะอบอุ่นใจเหมือนท้องทะเลกำลังปลอบประโลมและโอบกอดเราด้วยความรัก กลิ่นของความห่วงใยที่พัดผ่านมากับเสียงเสียงคลื่น ไอน้ำที่กระเซ็นมาเล็กน้อย ชวนให้สดชื่นและสบายใจไปด้วย


นอกจากทะเลยามค่ำคืนจะลึกลับแล้ว มันยังมีความสวยงามในตัวมันเอง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เรียกได้ว่าหากไม่สบายใจ หรือเหนื่อยจากอะไรก็ตาม ให้ลองไปทะเลแล้วจิตใจของคุณจะดีขึ้นแน่นอน