คำพูดที่ได้ยินบ่อย ๆ สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงกระบองเพชรว่า “ถ้าเลี้ยงกระบองเพชรแล้วไม่รอด ก็ไม่ต้องเลี้ยงต้นอะไรแล้ว” เพราะความเข้าใจว่า เจ้าต้นไม้จิ๋วมีหนามนั้นดูแลแสนง่าย ใคร ๆ ก็เลี้ยงได้ แต่พอได้เลี้ยงจริง ๆ แล้ว อาจจะพูดอีกอย่างหนึ่ง คือ “เลี้ยงให้รอดน่ะง่าย แต่เลี้ยงให้สวยน่ะยาก” หรือไม่ “เลี้ยงไม่เคยรอด เน่าตายหมดเลย” บทความนี้จึงได้นำวิธีการเลี้ยงน้องกระบองเพชรมากฝากกัน
วิธีการเลือกต้นกระบองเพชรสำหรับมือใหม่หัดปลูก
1. การเลือกต้นกระบองเพชรนั้นควรเลือกสายพันธุ์ที่เราชอบ เนื่องจากต้นกระบองเพชรมีหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนั้นหากยังไม่เคยเลี้ยงควรเลือกพันธุ์ที่ดูแลง่าย ทนทาน
2. ถ้าใครเป็นเซียนต้นกระบองเพชรจะทราบว่า ในตลาดซื้อขายต้นกระบองเพชรนั้น ต้นกระบองเพชรมีราคาหลากหลายตั้งแต่หลักสิบ ไปจนถึงราคาเป็นแสน สำหรับมือใหม่ควรซื้อต้นกระบองเพชรที่ราคาไม่สูง เหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของตนเอง
3. เลี้ยงต้นเล็ก ๆ ก่อน การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ทำให้ได้เห็นพัฒนาการของเหล่าต้นกระบองเพชรในทุก ๆ วัน ซึ่งจะเป็นความสุข และได้เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงของมัน
วิธีการดูแลต้นกระบองเพชร
1. ดินต้องโปร่ง
ดินก็เปรียบเสมือนกับบ้านหลังหนึ่งที่ต้นกระบองเพชรใช้อาศัยอยู่ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่าต้นกระบองเพชรเป็นพืชทะเลทรายก็ต้องปลูกในทรายสิ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ต้นกระบองเพชรทุกสายพันธุ์จะมีถิ่นกำเนิดมาจากทะเลทรายนะคะ และต้นกระบองเพชรที่เราซื้อมาเลี้ยงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกิดและเติบโตในทะเลทรายด้วย ดังนั้นการใช้ทรายเพียงอย่างเดียวเป็นวัสดุปลูกจึงไม่เหมาะสมกับต้นกระบองเพชรของเราอย่างแน่นอน ดินที่เหมาะสมแก่การใช้ปลูกต้นกระบองเพชรเกือบทุกสายพันธุ์ควรจะเป็นดินที่มีลักษณะโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารที่จำเป็นแก่การเจริญเติบโตของต้นกระบองเพชร ซึ่งเราอาจซื้อเป็นดินสำเร็จรูปสำหรับต้นกระบองเพชรที่มีขายตามท้องตลาดมาใช้เลยก็ได้ หรืออาจซื้อวัสดุปลูกมาผสมเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งวัสดุปลูกที่ใช้ผสมกันนั้นจะต้องประกอบด้วยดิน หิน และธาตุอาหารต่าง ๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสมนะคะ
2. รดน้ำต้องพอดี
เวลารดน้ำต้นกระบองเพชรควรดูว่ารดน้ำอย่างทั่วถึงหรือยัง แต่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน จนทำให้รากของมันเน่า การรดน้ำอาจรดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แนะนำให้รดช่วงเช้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับต้นกระบองเพชรแต่ละสายพันธุ์ หรือให้สังเกตจากดิน ถ้าดินเริ่มแห้ง ก็ให้รดน้ำได้เลย สำหรับน้ำที่ใช้รดน้ำควรเป็นน้ำสะอาด และใช้ฝักบัวรดน้ำ ไม่ใช่ใช้สายยางฉีดพ่นลงไป
3. แดดต้องถึง
สืบเนื่องจากข้อแรกก็คือหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าต้นกระบองเพชรเป็นพืชในทะเลทราย เมื่อได้น้องมาเลี้ยงก็เลยเอาน้องไปตั้งไว้กลางแดดทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายเจ้าต้นกระบองเพชรน้อย ๆ ก็จะเริ่มเหี่ยวแห้ง ผิวเปลี่ยนสี หรือของบางคนก็เริ่มมีอาการต้นนิ่มเละเป็นวุ้นและตายไปที่สุด ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการได้รับแดดแรงเกินไปจึงทำให้มีอาการผิวไหม้ไปจนถึงต้นสุกและเน่า หรือในทางตรงกันข้ามหลาย ๆ คนอาจจะนำต้นกระบองเพชรไปวางไว้หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการดูดซับรังสีต่าง ๆ และไม่เคยเอาออกแดดเลย สุดท้ายก็ทำให้ต้นกระบองเพชรกลม ๆ ของเราเริ่มจะยืดยาวเสียทรงไปเรื่อย ๆ ทางที่ดีควรให้ต้นกระบองเพชรได้รับแดดในปริมาณที่พอเหมาะอย่างสม่ำเสมอเช่นแดดในช่วงครึ่งวันเช้า ก็จะทำให้ต้นกระบองเพชรของเราเติบโตแบบไม่เสียทรงและไม่เน่าไม่ไหม้อีกด้วยค่ะ
สุดท้ายการปลูกต้นไม้มักเสี่ยงกับโรคอย่าง รา และ เพลี้ยแป้ง มาแวะเวียนให้ปวดหัวอยู่บ้าง ซึ่ง ‘รา’ เกิดจากการเน่าเพราะดินแน่นไป จนต้นไม้หายใจไม่ออก เพื่อนๆ ต้องหมั่นทำให้ดินแห้ง (คือไม่รดน้ำมากไป) พรวนดินซักเดือนละ 2 ครั้ง และเปลี่ยนดินใหม่ทุก ๆ ปีด้วย ต่อมาคือ ‘เพลี้ยแป้ง’ แมลงที่เคลือบตัวด้วยผงสีขาว ชอบดูดอาหารทำให้ต้นไม้ตาย ซึ่งมดเอามาปล่อยไว้ แค่พยายามไม่ให้มดขึ้นต้นไม้ และหมั่นจับแมลงออกก็พอแล้วค่ะ