อาการขี้หลงขี้ลืมอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าการหลงลืมมีบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน และเราไม่รีบแก้ไข อาการที่เราคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนก็เป็นอาจส่งผลเสียกับเราทั้งในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้ในอนาคต ดังนั้นวันนี้จึงมีคำแนะนำง่าย ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนนิสัยขี้ลืมให้ความจำของคุณกลับมาดีขึ้น
1. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายไม่ได้มีผลดีแค่กับร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสมองของเราด้วย นักวิจัยพบว่า การออกกำลังกายในระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ความจำระยะยาวดีขึ้น และส่งผลต่อการเรียนรู้อีกด้วย
2. อย่าเครียด เพราะมันส่งผลเสียต่อการจดจำ
ความโกรธหรือความกังวลเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดจำ ในบรรดาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดทั้งหมด อาการซึมเศร้าเป็นสิ่งที่ทำร้ายสมองได้มากที่สุด เมื่อเรามีอาการซึมเศร้าจะทำให้สาร Cortisol หลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งหากมีสารนี้อยู่บริเวณสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำระยะสั้นเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำลายความสามารถในการจดจำสิ่งใหม่ ๆ ได้ ดังนั้นหากรู้สึกว่ามีอารมณ์ซึมเศร้า หรือเครียดก็ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด
3. ทำสมาธิ
การทำสมาธิได้รับการพิสูจน์แล้วว่านอกจากจะทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ มันยังช่วยพัฒนาความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ได้ด้วย คนที่นั่งสมาธิเป็นประจำมักจะมีเปลือกสมอง (cerebral cortex) ที่หนาขึ้น และมีประสาทสัมผัสที่ดีขึ้น ซึ่งสองส่วนนี้ช่วยให้เราสามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพ
4. ฝึกจดจำข้อมูลใหม่ ๆ
การคิดคือการออกกำลังกายสมองและจิตใจ ลองจดจำสิ่งใหม่ในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดให้แรงบันดาลใจ เบอร์โทรศัพท์ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่เนื้อเพลง และพยายามจดจำสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ ลองทดสอบตัวเองว่าเราจำสิ่งต่าง ๆ ได้หรือเปล่า การฝึกฝนแบบนี้อาจจะดูเสียเวลา แต่คุณจะพบว่ามันทำให้ความจำคุณดีขึ้นจริง ๆ
5. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง
น้ำหนักของสมองกว่า 50 - 60 % คือไขมัน ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากต่อเซลล์สมอง การกินอาหารที่มีไขมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการพัฒนาความทรงจำระยะยาว อย่างไรก็ตามเราควรหลีกเลี่ยงของทอดต่าง ๆ เพราะถึงแม้จะมีไขมันแต่เป็นไขมันชนิดที่ไม่มีประโยชน์ต่อทั้งร่างกายและสมอง เราจึงควรเลือกไขมันที่ได้จากผักใบเขียว หรือปลาต่าง ๆ เช่น แซลมอน แอนโชวี่ และแม็กเคอเรลแทน
6. จำเป็นภาพ
ให้สนใจบริเวณที่เป็นภาพ แผนภูมิ กราฟต่าง ๆ เป็นพิเศษเวลาอ่านหนังสือที่เราอยากจะจำ แต่ถ้าเราไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ ไม่ได้จะไปสอบอะไร แต่อยากจำบางอย่างได้ ให้พยายามนึกภาพสิ่งที่เราต้องการจะจำ นอกจากนี้ เราอาจวาดแผนภูมิเอง เขียนเป็นข้อ ๆ เอง ใช้ปากกาสีเน้นคำ เพื่อให้เราจดจำได้ดีขึ้น
รวมไปถึงการฟังเพลงก็ช่วยได้เช่นกัน เพราะดนตรีสามารถดึงเอาความทรงจำต่าง ๆ กลับมา จากงานวิจัยพบว่าดนตรีเป็นตัวช่วยอย่างดีในการเรียกความทรงจำ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้เรียนรู้ขณะฟังเพลง มักจะถูกเรียกกลับคืนมาเมื่อเราได้ฟัง หรือนึกถึงเพลงนั้นในครั้งต่อ ๆ ไป