ต้นไม้อายุเกือบพันปีกับท่ามกลางโคลนสีขาวแห้งแตกระแหงตัดกับเนินทรายสีแดงที่สูงที่สุดในโลกแห่ง Sossusvlei ประเทศนามิเบีย ความสูงเฉลี่ย 300 – 400 เมตรเลยทีเดียว หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติ Namib-Naukluft


Namib ทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งคำว่า Namib มาจากภาษา Khoekhoegowab ของชาวพื้นเมือง หมายความถึง Vast Place หรือดินแดนอันกว้างใหญ่ ซึ่งก็สมชื่อด้วยการกินพื้นที่ราว 80,000 ตารางกิโลเมตร ทอดยาวเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกและมองเห็นเนินทรายสีแดงอยู่ไกลๆ


Deadvlei หรือบึงแห่งความตาย ในอดีตต้น Camel Thorn ก็เคยเขียวชอุ่มมาก่อน แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปและสายน้ำจากแม่น้ำ Tsauchab ถูกกีดขวางด้วยเนินทรายที่ค่อยๆก่อตัวสูงขึ้น ทำให้แม่น้ำที่เคยหล่อเลี้ยงเหือดแห้งเหลือทิ้งไว้แต่แอ่งโคลนสีขาว และต้น Camel Thorn ที่ยืนต้นตายอยู่ท่ามกลางเนินทราย


ต้นคาเมลธอร์น เริ่มเติบโตในหนองน้ำนี้ ผ่านไป 200 ปี สภาพภูมิอากาศก็เปลี่ยนไป แนวทะเลทรายเริ่มรุกล้ำจนปิดกั้นแม่น้ำ ด้วยสภาพอากาศอันเลวร้ายน้ำค่อยๆระเหยออกไปเรื่อยๆตามความร้อน ทำให้ต้นไม้เริ่มตาย หลายคนอาจสงสัยว่าต้นไม้มันเน่าตายหรือเปล่า? ไม่เลย ต้นไม้เหล่านี้แห้งตาย แบบแห้งสนิทแต่ยังคงรูปร่างที่สมบูรณ์อยู่ นึกภาพเหมือนการจำลองทำมัมมี่ที่โดนดูดความชื้นออกไปจนแห้งเกิดเป็นทัศนียภาพที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆแบบที่คงอยู่ในปัจจุบัน


สำหรับข้อควรระวังในการมาท่องเที่ยวทะเลทรายนั่นคือ เรื่องของการขาดน้ำ ฮีทสโตรก รวมไปถึงภาวะขาดน้ำเฉียบพลัน อากาศบริเวณทะเลทรายค่อยข้างเข้าใจได้ยาก ไม่แน่นอน มีความแปรปรวนสูง ดังนั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำควรที่จะดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร ทาครีมกันแดด สวมอุปกรณ์กันแดดทั้งเสื้อผ้า แว่นกันแดด หมวก เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำโดยตรง ถึงแม้จะไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้


นามิเบียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจอย่าง Etosha National Park, Himba Tribe, Spitzkoppe, Namib Desert, Fish Canyon, Walvis Bay และอื่นๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวเพิ่มเติม เพื่อความคุ้มค่าในการท่องเที่ยวได้เลยนะคะ