อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยไล่อนุมูลอิสระ ลดความเสียหายจากรังสียูวีที่ผิวหนัง และเร่งการเผาผลาญของผิวหนัง
อะโวคาโดยังมีธาตุเหล็กอยู่มาก ซึ่งสามารถส่งเสริมการสังเคราะห์ฮีโมโกลบินและป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก นอกจากนี้ อะโวคาโดยังอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวและปราศจากคอเลสเตอรอล ซึ่งช่วยลดความหนืดของเลือด จึงช่วยปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือด อะโวคาโดสามารถปกป้องระบบย่อยอาหารได้เนื่องจากอะโวคาโดมีไฟเบอร์สูง ในขณะที่ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้จะขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย ในขณะที่เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและป้องกันอาการท้องผูก
ข้อห้ามของอะโวคาโดมีดังนี้:
อะโวคาโดเป็นผลไม้เมืองร้อนที่อุดมไปด้วยกรดไขมันและโปรตีนไม่อิ่มตัว และยังมีโปรตีน allogeneic บางชนิด โปรตีนนี้มีผลกระตุ้นต่อร่างกายมนุษย์ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะแพ้อะโวคาโดที่จะกินอะโวคาโด แล้วอะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันและเป็นอาหารที่มีไขมันในผลไม้ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประทานกับเครื่องดื่มเย็น ๆ หรือน้ำแข็งได้ เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องร่วง
นอกจากนี้อะโวคาโดยังไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยเฉพาะหลังจากตัดแล้วต้องรับประทานภายใน 2 ชั่วโมง มิฉะนั้น การเก็บรักษานานเกินไปจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพหรือสูญเสียสารอาหารอย่างร้ายแรง ไม่ควรรับประทานอะโวคาโดกับผลไม้บางชนิด เช่นแตงโมและกล้วย
เมื่อเราเลือกอะโวคาโด เราควรเลือกอะโวคาโดที่มีผิวไม่เสียหายและมีสีเขียวขุ่น แล้วซื้อกลับบ้านและเก็บไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น จะกินโดยตรงหรือทำเป็นสลัดก็ได้ ก็สามารถทำเป็นอะโวคาโดมิลค์เชคได้