ไอซ์แลนด์ ประเทศที่เหมือนมนุษย์ต่างดาวมากที่สุด ไอซ์แลนด์ดูไม่เหมือนอยู่ในโลกเลยสักนิด

เพื่อที่จะฝึกนักบินอวกาศให้ลงจอดบนดวงจันทร์ NASA ได้ค้นหาสถานที่ในโลกที่ดูเหมือนดวงจันทร์มากที่สุด ในบรรดากว่า 230 ประเทศ แล้วไอซ์แลนด์ได้รับเลือก และเป็นประเทศที่มีชื่อในเรื่องความเยือกเย็น

ไอซ์แลนด์อยู่ที่ปลายสุดของโลก เป็นโลกที่แตกต่างและเป็นเสมือนอวกาศในภาพยนตร์ ด้านล่างนี้เป็นสถานที่ 9 แห่งในไอซ์แลนด์ที่เหมือนอยู่นอกโลกมากที่สุด

1. หาดทรายดำกับหินยักษ์ แม้แต่ชายหาดยังเป็นสีที่เดียวดาย สีดำมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ แต่ในชายหาดสีดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ "ทราย" มาจากลาวาภูเขาไฟ หลังจากถูกคลื่นและลมทะเลกัดเซาะ หินบะซอลต์สีดำก็กลายเป็นทรายสีดำ มันมืดมนและลึกลับ เป็นโทนสีเย็นระดับพรีเมียมที่ดึงเอาความเหงาในไอซ์แลนด์ออกมา

2. ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ลึกลงไปในหัวใจของแผ่นโลก คือบทกวีที่กล้าหาญที่สุดของแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา เป็นห้องทดลองภูเขาไฟขนาดมหึมาที่มีแรงอันทรงพลังที่สร้างดาวเคราะห์ได้ ภูเขาไฟของไอซ์แลนด์ไม่เคยหลับใหล และภูเขาไฟที่ยังปะทุมีอยู่มากกว่า 100 ลูก ดังนั้นจึงกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่สามารถเข้าไปด้านในของภูเขาไฟได้

3. แม่น้ำใต้ภูเขาไฟมีปฏิกิริยาต่อน้ำแข็งและลาวา นี่คือทฤษฎีการเขียนภาพของแวนโก๊ะ อาจเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าภาพถ่ายนี้เป็นภาพจริง ไม่ใช่ภาพวาดของปรมาจารย์ นี่คือภาพถ่ายทางอากาศของแม่น้ำในพื้นที่ภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ น้ำคดเคี้ยวผ่านทรายภูเขาไฟสีดำและลงสู่ทะเลในที่สุด แม่น้ำเหล่านี้มีสี เส้น และพื้นผิวที่ยากจะบรรยาย แต่ทุกท่วงลีลานั้นยอดเยี่ยม

4. ถนนหมายเลข 1 ในไอซ์แลนด์ ถนนเลนเดียวที่ไม่มีการหันหลังกลับ มุ่งไปสู่จุดสิ้นสุดของโลก ไอซ์แลนด์ ประเทศที่มีพื้นที่เพียง 103,000 ตารางเมตร ไม่มีรถไฟ ไม่มีรถไฟใต้ดิน และถึงแม้ว่าจะมีรถประจำทาง แต่ก็มีเที่ยวน้อย นอกจากนี้ยังมีถนนน้อยมากในไอซ์แลนด์ ถนนหมายเลข 1 นี้สร้างเป็นวงกลมขนาดใหญ่ล้อมรอบไอซ์แลนด์ทั้งหมดและมีเพียงเลนเดียวเท่านั้น สามารถเหยียบคันเร่งแล้วออกเดินทางโดยไม่เหลียวหลังได้เลย

5. สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Ice Tongue เป็นพรมแดนทางเหนือที่ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาใน "Game of Thrones" และยังเป็นโลกมหัศจรรย์ของการแข่งรถแดร็กใน "Fast and Furious 8" และยังเป็นดาวเคราะห์ของแมนน์ใน "Interstellar" หลังจากข้ามรูหนอน แต่ถ้าคุณเดินผ่านน้ำแข็ง ข้ามพื้นผิวน้ำแข็งและข้ามรอยแยกน้ำแข็งจริงๆ คุณจะรู้สึกถึงความไร้ค่าของมนุษย์และความกว้างใหญ่ของธรรมชาติ

6. ถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าใต้โดม ในไอซ์แลนด์น้ำแข็งที่ประกอบกันเป็นธารน้ำแข็งนั้นหนากว่า แน่นกว่า และมีประวัติที่เก่าแก่กว่าน้ำแข็งทั่วไปมาก ในฤดูร้อนธารน้ำแข็งจะละลาย ตัดส่วนล่างของธารน้ำแข็งและสร้างทางเดินใต้ดิน จะแข็งตัวในฤดูหนาวและกลายเป็นถ้ำน้ำแข็ง พื้นผิวพิเศษช่วยให้ธารน้ำแข็งดูดซับสีอื่นๆในสเปกตรัมนอกเหนือจากสีน้ำเงิน ซึ่งทำให้สีน้ำเงินบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

7. บ่อน้ำพุร้อนบลูลากูน นี่คือรีสอร์ทเพื่อสุขภาพติดอันดับโลก บลูลากูนเป็นอีกชื่อหนึ่งของไอซ์แลนด์ และคุ้มค่ากับที่ผู้หญิงที่ต้องเดินทางเป็นระยะทางหลายพันไมล์ บางคนถึงกับนั่งรถไปที่บลูลากูน ที่นี่คือร้านเสริมสวยจากธรรมชาติ เป็นของขวัญจากสวรรค์สู่โลก

8. พบกับแสงเหนือ ความฝันสูงสุดของนักเดินทาง ชาวเอสกิโมเชื่อว่าแสงออโรร่าเป็นผีที่นำวิญญาณของคนตายไปสู่คบเพลิงแห่งสวรรค์ ในตำนานเทพปกรณัมนอร์ส แสงออโรร่าเป็นประกายของโล่ของ Valkyrie ขณะที่เธอบินอยู่บนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นตำนานไหนๆ ทุกคนที่ได้เห็นแสงออโรร่าด้วยตาของตัวเองจะบอกได้ว่าไม่มีภาพถ่ายใดที่สามารถถ่ายทอดความงามของมันได้อย่างแน่นอน

9. หาดเพชรสูงสองพันเมตร เมื่อมาที่นี่คุณสามารถเขียนบทกวีให้กับน้ำแข็งได้ทุกชิ้น ทรายสีดำที่มีน้ำแข็งใสๆและแสงแดดส่องกระทบ ทำให้มันเปล่งประกายราวกับเพชร หัวใจของคุณจะเต้นไปพร้อมกับคลื่นที่ปะทะกับน้ำแข็ง ผู้ที่เคยเจอมาแล้วจะยังนึกถึงความหนาวเย็น ใส ฟ้า สงบ และโปร่งแสงในคืนก่อนนอน