มหาสมุทรเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต แต่ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างทะเลและมหาสมุทร ตรงกลางของมหาสมุทรเรียกว่ามหาสมุทรและขอบๆก็เป็นทะเล พื้นที่ของทะเลมีประมาณ 11% ของมหาสมุทร และความลึกของน้ำนั้นตื้น โดยมีความลึกเฉลี่ยตั้งแต่ไม่กี่เมตรถึงสามพันเมตร
คุณรู้จักทะเลมากแค่ไหน? มีความรู้เล็กๆน้อยๆที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับทะเล ลองมาดูกันเลย
ทะเลเป็นสีฟ้าตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและเมฆเป็นสีขาว ล้วนเป็นผลผลิตจากธรรมชาติ แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าน้ำไม่มีสีและโปร่งแสง สาเหตุที่ทะเลดูเป็นสีฟ้าเมื่อมองจากระยะไกลก็เพราะความลึกของก้นทะเลและปริมาตรของน้ำทะเล ความลึกของมหาสมุทรนั้นใหญ่มาก และก้นทะเลไม่มีเครื่องมือให้แสงสว่างเหมือนเทคโนโลยีบนบก ดังนั้นบางครั้งก้นทะเลก็มืดมาก เมื่อคุณเข้าใกล้พื้นผิวมากขึ้นเรื่อยๆด้านล่างจะสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดฉากกลางคืนที่สว่างสดใส ราวกับท้องฟ้าสีครามเข้ม ดังนั้นในสายตาของผู้คนสีของทะเลจึงเป็นสีฟ้า นี่คือเหตุผลว่าทำไมน้ำทะเลถึงเป็นน้ำทะเล น้ำทะเลในมือและน้ำทะเลในขวดมีความโปร่งใส ในขณะที่น้ำทะเลในมหาสมุทรเป็นสีฟ้า
น้ำทะเลเป็น "บ้านเกิด" ของเกลือ และด้วยเหตุผลที่ดี ในระยะเริ่มต้นของการก่อตัวของโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะค่อยๆงอกขึ้น และในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนพึ่งพานั้น มหาสมุทรเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเติบโตของชีวิต ในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาอันยาวนานของโลก น้ำผิวดินที่จุดเริ่มต้นของการก่อตัวเป็นน้ำจืดทั้งหมด ต่อมาเนื่องจากเกลือในหินผิวดินถูกน้ำกัดเซาะและกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง น้ำจึงมีเกลือและน้ำที่มีเกลือก่อตัวเป็นแม่น้ำอย่างต่อเนื่องและในที่สุดก็รวมเข้ากับทะเลในที่สุด ไอน้ำจะระเหยและทิ้งอนุภาคเกลือไว้ เกลือก็สะสมมากขึ้นเรื่อยๆและน้ำทะเลก็จะกลายเป็นรสเค็มโดยธรรมชาติ หลังจากเกิดการวนรอบของวงจรนี้มาหลายพันล้านปี ปัจจุบันน้ำทะเลส่วนใหญ่มีความเค็มประมาณ 35%
มหาสมุทรประกอบด้วยน้ำมากกว่า 1.35 พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตร คิดเป็นประมาณ 97% ของน้ำทั้งหมดบนโลก แต่น้ำที่มนุษย์สามารถดื่มได้นั้นมีจำกัด และด้วยการทำลายสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาอย่างต่อเนื่อง อาจจำเป็นต้องแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำผ่านการกลั่นน้ำทะเลในอนาคตอันใกล้
ทะเลยังเป็นแร่เหลว ธาตุส่วนใหญ่ในโลกสามารถพบได้ในน้ำทะเล โดยเฉลี่ยน้ำทะเลทุกๆลูกบาศก์กิโลเมตรมีแร่ธาตุอยู่ 35.7 ล้านตัน จากผลการตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง ทรัพยากรน้ำมันที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ของโลกอยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านตัน ซึ่งสำรองอยู่ที่ก้นทะเลคิดเป็น 130 พันล้านตัน นอกจากน้ำมันแล้วพลังงานใหม่อีกอย่างหนึ่งคือน้ำแข็งที่ติดไฟได้ซึ่งอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรยังมีค่าที่มีศักยภาพสูงและสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับวิธีการขนส่งต่างๆในปัจจุบัน หลายๆประเทศจึงได้กำหนดแผนการขุดและการใช้ที่สอดคล้องกันจากข้อมูลนี้ด้วย