เมื่อคุณตัดสินใจว่าต้องการเห็นสถานที่ที่สวยงามที่สุดในโลก คุณอาจไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน อาจไม่ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในการเดินทางเพื่อชมความงามของโลก ภูมิประเทศต่อไปนี้และสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างแรงบันดาลใจจากทั่วโลกล้วนเป็นเหตุผลที่ดีที่จะเพิ่มเป็นลิสต์ในการเดินทางของคุณ
ไอซ์แลนด์ บลูลากูน : บลูลากูนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ น้ำพุร้อนธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากเรคยาวิก 40 กิโลเมตร เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์ของประเทศไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวจะได้แช่น้ำร้อนท่ามกลางธรรมชาติของที่นี่ได้ด้วย
Trolltunga นอร์เวย์ : เดินป่าไปยัง Trolltunga ในนอร์เวย์ ที่ซึ่งคุณสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติที่สวยงามของทะเลสาบ Lingdahlswatnett ที่นี่เป็นกลุ่มหินที่มีความสูงถึง 1,100 เมตร จากที่นี่คุณสามารถมองเห็นทะเลสาบได้ทั้งหมด และเพื่อที่จะได้มีความสุขเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพนี้ คุณต้องเดินขึ้นเขาอีก 20 กิโลเมตรข้ามทิวเขาไปก่อน
Seychelles : เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียแอฟริกาและเป็นที่รู้จักในนาม "สวรรค์ของนักเดินทาง" ทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามมาก และมากกว่า 50% ของอาณาเขตถูกกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ มีเกาะเล็กๆมากมายในเซเชลส์ ซึ่งแต่ละเกาะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และมีสถานทีอื่นๆให้ดูอีกมากมาย หากคุณคิดว่าท้องฟ้าสีคราม เมฆสีขาว และชายหาดทั่วๆไปที่มีแสงแดดสดใสแสนจะน่าเบื่อ คุณลองเลือกมาเที่ยวที่แห่งนี้ได้เลย
อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ แทนซาเนีย : เหมาะสำหรับการผจญภัยในแอฟริกา ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในแหล่งมรดกโลก แต่เป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ และขอแนะนำให้คุณเดินทางระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมเพื่อชมปรากฏการณ์การอพยพครั้งใหญ่ เป็นปรากฏการณ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของแอฟริกา โดยมีสัตว์ป่า 1.5 ล้านตัวกระจายไปทั่วแอฟริกาตะวันออกในแต่ละปี การอพยพของสัตว์ประจำปีเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีสัตว์ต่างๆที่กำลังหาน้ำและทุ่งหญ้าจากการอพยพ จากสภาพอากาศช่วงเวลาการอพยพนั้นงดงามเป็นพิเศษ
มอริเชียส : มอริเชียสเป็นประเทศเกาะภูเขาไฟในแอฟริกาตะวันออก มอริเชียสเป็นที่รู้จักในนาม "ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย" และมีทรัพยากรการท่องเที่ยวมากมาย ชาวบ้านยินดีต้อนรับและทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด ทำให้เป็นเกาะที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันหยุด นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่จงใจเลือกที่จะฮันนีมูนหรือจัดงานแต่งงานที่นี่ มอริเชียสมีสภาพอากาศอบอุ่นค่อนข้างเย็นและสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
Salar de Uyuni โบลิเวีย : เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวจะเรียกว่า "กระจกแห่งท้องฟ้า" เพราะท้องฟ้าเชื่อมเข้ากับทะเลสาบแล้วดูเหมือนกระจก ทุกฤดูร้อนทะเลสาบที่นี่จะเหือดแห้งเหลือเพียงชั้นของแร่ธาตุที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบ เป็นก้อนเกลือสีขาวที่ชวนเวียนหัว ในช่วงฤดูฝนทะเลสาบตื้นและสะท้อนท้องฟ้า สร้างจินตนาการที่เหมือนฝันแบบไม่มีที่สิ้นสุด