ทุกวันนี้ คนชอบที่จะเลี้ยงสัตว์ และแมวเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเลือกแรกๆ เพราะว่าความน่ารักของพวกมัน และแน่นอนว่าการที่จะเป็นเจ้าของสัตวืเลี้ยงที่ดีได้นั้น ควรที่จะทำความรู้จักพวกมันเสียก่อน เพื่อที่จะเข้ากับพวกมัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างสามัคคี
ลักษณะของแมวดูเหมือนจะเข้าถึงยาก ทำให้คนรู้สึกถึงความเย็นชาของมัน แต่จริงๆแล้ว แมวมันเป็นสัตว์ที่น่าอบอุ่นหัวใจมากๆ มีชีวิตชีวา น่ารัก และเป็นมิตรกับเจ้าของ เราต้องดูแลมันอย่างดี เพื่อที่มันจะได้เติบโตอย่างแข็งแรง มาดูข้อควรระวังบางอย่างกันดีกว่า
1.เตรียมตัวล่วงหน้า
เมื่อแมวกลับมาบ้านเป็นครั้งแรก แนะนำให้เตรียมห้องว่างไว้ล่วงหน้า เตรียมอาหาร น้ำ และกระบะทราย และปล่อยให้แมวอยู่คนเดียวในห้องนั้นเป็นเวลา 1-3 วัน ในระหว่างนั้นคุณ สามารถสื่อสารกับแมวได้
เพื่อทำให้แมวคุ้นเคยกับกลิ่น สิ่งแวดล้อม และเจ้าของบ้าน และป้องกันไม่ให้แมวกระวนกระวายใจจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสิ่งแวดล้อม
2.อย่าเปลี่ยนคอกแมวกะทันหัน
เวลาเราต้องการเปลี่ยนคอกแมว ไม่ควรเปลี่ยนกระทันหัน เพราะแมวอาจจะไม่คุ้นชิน นี่อาจทำให้แมวของคุณฉี่บนเตียง บนโซฟา หรือแม้แต่ทุกมุมบ้านของคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือวางคอกแมวทั้งสองคอกไว้ด้วยกันและค่อยๆเอาคอกแมวเก่าออก
3.ห้ามเปลี่ยนอาหารแมวกะทันหัน
หากต้องการเปลี่ยนอาหารแมว เราสามารถซื้ออาหารแมวใหม่ในจำนวนเล็กน้อยก่อน จากนั้นจึงให้อาหารแมวเก่าและอาหารแมวใหม่แยกกัน เพื่อดูว่าแมวชอบกินแบบไหนมากกว่า
เป็นที่น่าสังเกตว่ายิ่งราคาอาหารแมวสูงเท่าไรก็ยิ่งไม่ดีขึ้นเท่านั้น แม้ว่าอาหารแมวที่มีราคาสูงจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า แต่ก็ไม่เหมาะหากแมวไม่ชอบกิน
4.ห้ามถ่ายพยาธิบ่อยๆ
หากแมวของเราไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อยๆ แนะนำให้ถ่ายพยาธิแมวทุกๆ 4-5 เดือน ตราบใดที่บ้านสะอาดถูกสุขอนามัยโดยทั่วไปจะไม่มีปัญหา
แนะนำให้ถ่ายพยาธิแมวทุกๆ 3-4 เดือน แต่ถ้าให้อาหารแมวด้วยปลาดิบบ่อยๆ แนะนำให้ทำทุกๆ 2 เดือน
5. สังเกตอาเจียนของแมว
ไม่ต้องกังวลเวลาแมวอาเจียน โดยทั่วไป มีหลายสาเหตุที่แมวจะอาเจียน สาเหตุส่วนใหญ่ของการอาเจียนมาจาก ก้อนขนในทางเดินอาหาร
เราสามารถสังเกตการอาเจียนของแมวได้ หากพบขนแมวในอ้วกของมัน ให้ทาครีมกำจัดขนเป็นเวลาสองสัปดาห์ ถ้าอาเจียนเป็นของเหลวสีน้ำตาลเหลือง ก่อนอื่นให้ถ่ายรูปอาเจียนด้วยโทรศัพท์มือถือ แล้วพาแมวไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาต่อไป
6.ใส่ใจอาหารเสริมสำหรับแมว
แม้ว่าอาหารแมวทำเองจะดี แต่แน่นอนว่าไม่ควรผสมและปรุงส่วนผสมต่างๆให้แมวกิน แต่ให้เพิ่มสารอาหารต่างๆ เช่น น้ำมันปลา ทอรีน วิตามิน ฯลฯ หากเราไม่สามารถทำเองได้ แนะนำให้ป้อนอาหารแมว เพราะอาหารแมวอุดมไปด้วยสารอาหารที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านพัฒนาการของแมวได้
เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขแล้ว แมวไม่ได้กระตือรือร้นเหมือนสุนัข และพวกมันจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แมวไม่ชอบออกไปข้างนอกเหมือนสุนัข แล้วพวกมันแตกต่างกันยังไงนะ?
1. วิธีออกกำลังกายแบบต่างๆ
สุนัขมักเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีในการออกกำลังกาย หลายคนชอบวิ่งและชอบการเดินทาง แมวมีความว่องไวแต่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแมวไม่คล่องตัว แมวโฉบหรือกระโดดขณะสะกดรอยตามเหยื่อ
2. วิธีการล่าสัตว์ต่างๆ
สุนัขและแมวเป็นนักล่าที่ดีทั้งคู่ แต่พวกมันเข้าหาเหยื่อต่างกัน แมวสามารถใช้กรงเล็บปีนต้นไม้แล้วกระโดดจากที่สูงได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่สุนัขมักจะใช้จมูกเพื่อค้นหาหรือจับเหยื่ออย่างรวดเร็ว