ว่ากันว่าชิงช้าสวรรค์เป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติก เป็นความฝันของหลายๆคนที่จะได้จับมือกับคนรัก มองโลกที่น่าหลงใหลนี้จากความสูงและเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาอันอบอุ่นที่เป็นของเรา


ในปี พ.ศ. 2436 ชิงช้าสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นที่ชิคาโก เป็นเวลากว่า 100 ปีแล้วที่สามารถดึงดูดผู้คนของชิงช้าสวรรค์ไม่เคยลดลง การสัมผัสกับท้องฟ้าอย่างปลอดภัยและใกล้ชิดก็เป็นส่วนที่ดึงดูดใจที่สุดของชิงช้าสวรรค์ด้วยเช่นกัน


หากเมืองใดมีชิงช้าสวรรค์ คนในท้องถิ่นมักจะพูดถึงมันด้วยความภาคภูมิใจ และชิงช้าสวรรค์จะกลายเป็น "สถานที่สำคัญ" ในท้องถิ่นไปโดยปริยาย


1. Five Ferris Wheel, Osaka, Japan ชิงช้าสวรรค์สุดร้อนแรงแห่งนี้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า Hep Five ที่สถานี Umeda ในโอซาก้า ไม่ต้องกังวลว่าชิงช้าสวรรค์ที่สร้างขึ้นในย่านการค้าจะถูกบล็อกโดยอาคารสูง ชิงช้าสวรรค์ Hep Five เลือกสร้างบนยอดห้างสรรพสินค้าที่มีความสูงมากกว่า 30 เมตร ควบคู่ไปกับความสูง 75 เมตรของชิงช้าสวรรค์นั้นเอง สามารถส่งนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนท้องฟ้าได้โดยตรงถึง 100 เมตรเพื่อชมทิวทัศน์อันจอแจของเมืองโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์เป็นสีแดงตั้งแต่ขาตั้งซึ่งโรแมนติกมาก เมื่อตกกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดเจิดจ้ายิ่งขึ้น ทำให้สะดุดตาเป็นพิเศษในเขตเมืองที่คนพลุกพล่าน สำหรับผู้ที่แสวงหาความโรแมนติกชิงช้าสวรรค์แห่งนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดี


2. Mickey's Fun Ferris Wheel, Los Angeles, USA ชิงช้าสวรรค์ Mickey's Fun แบ่งโหมดของห้องแบบดั้งเดิมและเลือกติดตั้งรางสไลด์บนโครงเหล็กของชิงช้าสวรรค์ เพื่อที่ว่าเมื่อชิงช้าสวรรค์หมุน ที่นั่งสามารถเลื่อนไปมาตามรางได้ด้วยแรงโน้มถ่วง ในขณะที่สร้างความพึงพอใจนี้ให้กับนักท่องเที่ยว ก็ยังเพิ่มความสนุกสนานอีกด้วย Mickey's Fun Ferris Wheel ให้เป็นหนึ่งในสามล้อชิงช้าสวรรค์ที่หลงเหลืออยู่ในโลก ในฐานะที่เป็นแลนด์มาร์คของ California Adventure Park หัวมิกกี้ตัวใหญ่ที่อยู่ตรงกลางของชิงช้าสวรรค์ก็บ่งบอกถึงโลกแห่งเทพนิยายที่น่าอัศจรรย์นี้ และการแสดงแสงสีทางน้ำของดิสนีย์ทุกคืนจะจัดแสดงตรงเวลาด้านหน้าชิงช้าสวรรค์ หากคุณมีโอกาสมาที่ดิสนีย์แลนด์ในลอสแองเจลิส คุณต้องไม่พลาดชิงช้าสวรรค์ที่ "แกว่งไกว" ไปมานี้


3. Skyview Ferris Wheel, The Hague, Netherlands เป็นชิงช้าสวรรค์แห่งเดียวในยุโรปที่อยู่เหนือมหาสมุทรและเป็นที่ต้องการไปเที่ยวของใครหลายๆคนตั้งแต่เปิดให้บริการในปลายปี 2559 นักท่องเที่ยวจะเดินข้ามโครงเหล็กที่ยาวและแคบไปยังทะเลก่อนจะมีโอกาสได้เห็นทางเข้าชิงช้าสวรรค์ ชิงช้าสวรรค์สกายวิวมีความสูงมากกว่า 50 เมตร และมีห้องโดยสารทั้งหมด 36 ห้อง ห้องโดยสารแต่ละห้องติดตั้งระบบปรับอากาศอัจฉริยะ คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องลมหนาวและความร้อนในฤดูร้อน ขณะที่ชิงช้าสวรรค์ค่อยๆลอยขึ้น ด้านหนึ่งเป็นทิวทัศน์ของเมืองเฮกที่สวยงาม และอีกด้านหนึ่งคือชายฝั่งทะเลเหนือที่มีคลื่นสีขาวเป็นเกลียว ไม่ว่าจะเป็นตอนเที่ยงหรือเมื่อแสงนีออนส่องสว่าง ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศโรแมนติกได้


4. The Flyer, Singapore ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้รู้จักกันในชื่อ "สิงคโปร์ฟลายเออร์" สูง 165 เมตร หลังจากขึ้นชิงช้าสวรรค์แล้วในตอนที่หมุนคุณจะเห็นทั้งสิงคโปร์และแม้แต่เกาะในอินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นเหมือนรถคันใหญ่ๆที่ใสรอบด้าน และคุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของสิงคโปร์จากชิงช้าสวรรค์ที่มีสีสันและเงียบสงบ โดยเฉพาะตอนที่เดินไประหว่างชิงช้าสวรรค์จะทำให้ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้นไปอีก


5. London Eye, UK เมื่อพูดถึงลอนดอน นอกจากบิ๊กเบนแล้ว ลอนดอนอายก็มีชื่อเสียงมากเช่นกัน มักถูกใช้เป็นแลนด์มาร์กในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ต่างๆ ถือได้ว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ถ่ายรูปได้ดีที่สุด London Eye หรือที่รู้จักในชื่อ Millennium Wheel เปิดทำการเมื่อปลายปี 2542 ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิใจบนฝั่งแม่น้ำเทมส์ด้วยความสูง 135 เมตร การขึ้นลอนดอนอายเพื่อชมทัศนียภาพที่ดีที่สุดของเมืองลอนดอน เป็นการเปิดโลกกว้างในช่วงกลางวันและความโรแมนติกของแสงไฟในยามค่ำคืน เมื่อมองลอนดอนจากด้านบน คุณจะมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในลอนดอน เช่น พระราชวังบักกิงแฮม บิ๊กเบนและแม่น้ำเทมส์ เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมอังกฤษจะทำให้คุณหวั่นไหว