ทะเลสาบที่เราเคยเห็นหรือรู้จักกันนั้นก็จะเป็นผืนน้ำนิ่งสงบ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและมักจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนอยากไปเที่ยวพักผ่อน รับรองว่าถ้าได้เห็นทะเลสาบที่สวยๆทุกคนต้องร้องว้าวแน่นอน เพราะแต่ละที่นั้นน่าอัศจรรย์สุดๆและเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเองด้วย

• เจลลี่ฟิชเลค (Jellyfish Lake) ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐปาเลา(Republic of Palau) เป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ไปประมาณ 500 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวชอบพากันมาดำน้ำและชมธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ คือ ทะเลสาบแมงกะพรุนไร้พิษ

• ทะเลสาบคาวาคุจิโกะ ภูเขาไฟฟูจิ สามารถขึ้นไปเพื่อชมวิวด้านบนได้โดยนั่งกระเช้า ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะนั่งกระเช้า แต่มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเลือกที่จะปีนเขาสำรวจพื้นที่ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามอีกแห่ง

• ทะเลสาบเกรตแบร์ เป็นทะเลสาปที่อยู่ในเขตรัฐนอร์ท เวสต์ เทอร์ริเทอร์รี่ ประเทศแคนาดา ทวีปอเมริกาเหนือ จุดที่ลึกที่สุด มีความลึก 2,719 เมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีป ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำแม็คเคนซี่ย์ ไหลออกสู่มหาสมุทรอาร์คติคทางตอนเหนือ

• ทะเลสาบวิคตอเรีย ตั้งอยู่ในเขตประเทศอูกันดา เคนยาและแทนซาเนีย ทวีปแอฟริกา โดยที่เมืองหลวงของอูกันดา คือ กรุงกัมปาลา (Kampala) ก็ตั้งอยู่ริมทะเลสาบนี้ด้วย เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาอีกด้วย จุดที่ลึกที่สุด มีความลึก 83 เมตร

• ทะเลสาบชูเซนจิ ญี่ปุ่น เป็นทะเลสาบที่อยู่ในจังหวัดนิคโก ทางตอนเหนือของโตเกียว ทะเลสาบตั้งอยู่ตีนเขาของภูเขาไฟ Nantai ตัวทะเลสาบญี่ปุ่นแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ทะเลสาบชูเซนจิมีชื่อเสียงทางด้านบ่อน้ำพุร้อน และความหลากหลายทางธรรมชาติ

• ลากูนา โคโลราดา ประเทศโบลิเวีย ทะเลสาบเกลือหรือทะเลสาบสีแดง ที่นี่มีสารบอแรกซ์สีขาวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีส่วนที่เป็นสีแดงที่เกิดจากสาหร่ายสีแดง แพลงก์ตอน และจุลินทรีย์อีกหลายชนิด เมื่อมาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นนกฟลามิงโกเป็นจำนวนมาก เพราะในทะเลสาบนี้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโกนั่นเอง

ปิดท้ายด้วยทะเลสาบเมดิซีน (Medicine Lake) รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ที่แห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบมหัศจรรย์ เพราะในช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นความสวยงามของวิวทะเลสาบ และเมื่อเข้าหน้าหนาวน้ำกลับแห้งหายไปแทบทั้งหมด นั่นก็เพราะน้ำได้ไหลซึมลงไปใต้ดิน นับเป็นการระบายน้ำของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์มากๆ